ประเภท 1.โพลิเอททีลีน เทเรฟธาเลท (Polyethylene Terephthalate:PET/PETE)
คุณสมบัติ แข็งแรง เหนียว ทนต่อไขมัน น้ำมัน และความร้อนอุณหภูมิระหว่าง 70-100°C นิยมผลิตเป็นขวดบรรจุ น้ำอัดลม น้ำดื่มน้ำยาบ้วนปาก และภาชนะบรรจุอาหาร
ประเภท 2. โพลิเอททีลีนความหนาแน่นสูง (High Density Polyethylene: HDPE)
คุณสมบัติ มีสีขุ่น แข็งแรง และ เหนียว ราคาถูก ง่ายต่อ การขึ้นรูป กันน้ำและความชื้นได้ดี ทนการกัดกร่อนของสารเคมี ทนอุณหภูมิได้ถึง 105°C ใช้ผลิตเป็นขวดสำาหรับ นม น้ำ น้ำผลไม้ น้ำยาซักผ้า ถุงใส่อาหาร ของเล่น
ประเภท 3. ไวนิล หรือโพลิไวนิลคลอไรด์ (Polyvinyl Chloride:PVC)
คุณสมบัติ ใส กันอากาศและน้ำเข้าได้ดี น้ำหนักเบา ราคาถูก ทนต่อสารเคมีและอุณหภูมิ ได้ระหว่าง -20 -80°C PVC มี 2 ประเภทคือ ชนิดแข็ง ใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างและชนิดอ่อน ใช้ทำฟิล์มหุ้มอาหาร บรรจุภัณฑ์อาหารชนิดใสอุปกรณ์การแพทย์ตลอดจนฉนวนหุ้มสายไฟ
ประเภท 4. โพลิเอททีลีน ความหนาแน่นต่ำ (Low Density Polyethylene: LDPE)
คุณสมบัติ เหนียว ขึ้นรูปง่าย กันอากาศและความชื้นได้ดี ปิดผนึกด้วยความร้อนได้ดี ใช้ทำาฟิล์มหุ้มบรรจุภัณฑ์ ถุงใส่อาหารแช่เย็น ซองบะหมี่สำาเร็จรูป ขวดน้ำเกลือ
ประเภท 5. โพลิโพรพิลีน(Polypropylene: PP)
คุณสมบัติ แข็ง เหนียว ขึ้นรูปง่ายกันความชื้น ทนต่อสารเคมี และอุณหภูมิได้ ระหว่าง -30 -130°C ใช้ผลิตภาชนะบรรจุ อาหารที่เข้าไมโครเวฟได้ บรรจุภัณฑ์นมเปรี้ยว ขวดใส่เครื่องปรุงอาหาร
ประเภท 6. โพลิสไตรีน (Polystyrene: PS)
ใส แข็ง แต่เปราะ และแตกหักง่าย ยอมให้น้ำและไอระเหยผ่านได้ง่ายทนต่ออุณหภูมิได้ระหว่าง -20 -80°C ใช้ผลิตแผ่นซีดี รวมถึง ภาชนะที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง เช่น กล่อง ถาดโฟมถ้วย ช้อน
ประเภท 7. พลาสติกที่ไม่ใช่ 6 ประเภทข้างต้นหรือไม่ทราบว่าเป็น พลาสติกชนิดใด เกิดจากการผสมของพลาสติกชนิดต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบโพลิเมอร์ของพลาสติกชนิดนั้น ๆ